เมล็ดทานตะวันมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประกอบด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส อีกทั้งยังมีวิตามินต่างๆ ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินเค วิตามินบี 2 และวิตามินอี โดยเฉพาะวิตามินอีมีสูงกว่าพืชอื่นๆ วิตามินอีมีความสำคัญต่อสุขภาพต่างๆ ได้แก่
1. รักษาผิวหนังให้แลดูสดใส เยาว์วัย
2. ทำให้ระบบสืบพันธุ์ปกติ
3. ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด เนื่องจากในเมล็ดทานตะวันมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวอยู่สูง กรดนี้จะช่วยลดไขมันในหลอดเลือด อีกทั้งทำให้เม็ดเลือดแดงสมบูรณ์ คงทน ไม่รวมตัวเป็นกลุ่มก้อน อันเป็นสาเหตุให้หลอดเลือดอุดตัน
4. บำรุงสายตา เนื่องจากวิตามินอีเป็นสารที่ช่วยป้องกันมิให้ออกซิเจนเข้าทำปฏิกิริยากับ กรดไขมันไม่อิ่มตัวภายในแก้วตา จึงน่าจะช่วยป้องกันต้อกระจกได้ ยังมีวิตามินอีกหลายตัวที่เป็นสารชนิดเดียวกันนี้ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินดี วิตามินเค ก็คงใช้ได้เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ในคนทั่วๆไปที่บริโภคอาหารครบ ก็คงมีวิตามินอีที่เพียงพอแล้ว แต่พอสูงอายุก็ยังพบต้อกระจกได้อยู่ อีกทั้งยังไม่มีรายงานการวิจัยอันใดที่พิสูจน์ออกมาว่าวิตามินอีป้องกันต้อกระจกได้แน่ๆ เพราะกระบวนการเกิดต้อกระจกพบได้จากหลายสาเหตุ โดยสรุปน่าจะกล่าวว่า วิตามินอีอาจมีส่วนช่วยป้องกันต้อกระจกด้วยดังหลักการข้างต้น
การที่คุณกินเมล็ดทานตะวันทุกวันคงจะมีประโยชน์ในแง่โภชนาการ เหมือนอาหารอื่นๆ ที่มีโปรตีน ธาตุต่างๆ ตลอดจนวิตามินที่กล่าวข้างต้น ส่วนเรื่องโทษต่อร่างกายนั้นถ้ากินเข้าไปมากๆ ยังไม่มีรายงานอันใดบอกไว้ ปกติร่างกายต้องการวิตามินอีเพียง 15-30 IU ต่อวันก็จริง มีรายงานว่าคนกินวิตามินอีในขนาด 600-1,200 IU ต่อวันติดต่อกันหลายปีก็ไม่มีโทษอะไร (อัตรานี้เท่ากับเมล็ดทานตะวันมากกว่า 1 กิโลกรัมต่อวัน) คุณคงสบายใจได้ เพราะการกินเช่นนั้นไม่ให้โทษ มีประโยชน์ในแง่โภชนาการ ทั้งยังอาจจะช่วยชะลอการเกิดต้อกระจกก็เป็นได้ (หมายเหตุ วิตามินอีในรูปของอัลฟา โทโคฟีรอล (Alpha Tocopherol) ซึ่งเป็นชนิดที่ร่างกายต้องการ 1.49 IU = 1 มก.)
เมล็ดดอกทานตะวันมีขายหลายรูปแบบ ทั้งที่อบพอสุกใส่เกลือป่นเล็กน้อย มีรสมัน รสเค็มอ่อนๆ รับประทานเป็นของขบเคี้ยว และแบบเคลือบน้ำตาล รับประทานเป็นขนมหวาน อาหารที่ใส่เมล็ดดอกทานตะวันเป็นเครื่องปรุงนั้นต้องใช้เมล็ดดอกทานตะวัน แบบอบใส่เกลือ วิธีทำให้ได้กลิ่นรสของเมล็ดดอกทานตะวันนั้นต้องบุบพอแตกก่อน ที่สำคัญต้องใช้เวลาสั้นในการปรุง มิฉะนั้นสารที่มีประโยชน์จะเหลือน้อยลง
วิธีเลือกซื้อเมล็ดดอกทานตะวันต้องเลือกที่ใหม่ๆ และไม่เหม็นหืน สังเกตจากเปลือกหุ้มเมล็ดต้องมีสีเทา ไม่เป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาล ถ้ากินไม่หมดในครั้งเดียวต้องเก็บใส่ภาชนะมีฝาปิดสนิทอากาศเข้าไม่ได้ เมล็ดดอกทานตะวันจึงจะไม่มีกลิ่นเหม็นหืน หรือไม่ก็ชื้อมาในปริมาณน้อยใช้ในครั้งเดียวหมด